เทคนิคการคัดเลือกอสังหาริมทรัพย์ตามหลัก “ฮวงจุ้ย”

เทคนิคการคัดเลือกอสังหาริมทรัพย์ตามหลัก “ฮวงจุ้ย”

เทคนิคการคัดเลือกอสังหาริมทรัพย์ตามหลัก “ฮวงจุ้ย”

ใครกำลังตัดสินใจเลือกซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างก็ต้องหนีไม่พ้นหลัก “ฮวงจุ้ย” เสริมดวงชะตาให้กับผู้อยู่อาศัย เรื่องของฮวงจุ้ยหลายคนอาจจะคิดว่างมงายไร้สาระไม่เห็นจะต้องไปสนใจอะไรเลย จะซื้อก็ซื้อไม่ต้องคิดมาก ถ้าหากท่านกำลังคิดเช่นนี้ท่านกำลังคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป จากที่เราทราบกันอยู่แล้วเรื่องของความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนานใครหลายๆ คนต่างก็เชื่อเรื่องเหล่านี้
 
ดังนั้นถ้าหากท่านเป็นนักลงทุน นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือต้องการจะขายอสังหาริมทรัพย์ชิ้นนั้นให้กับผู้อื่น ท่านก็ต้องคำนึงถึงคนที่มาซื้อด้วยนอกจากจะคำนึงถึงเฉพาะความชอบส่วนตัว ถ้าหากท่านเลือกอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ตรงตามหลักฮวงจุ้ยและเป็นผลลบมากๆ ท่านก็จะไม่สามารถขายให้กับคนที่เชื่อในหลักฮวงจุ้ยได้ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นคนกลุ่มใหญ่ของคนในสังคม จึงอยากให้ท่านผู้อ่านคำนึกถึงเรื่องเหล่านี้ด้วยเพราะจะทำให้ขายง่าย ขายคล่องขึ้น
 
หลักฮวงจุ้ย อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดูไร้เหตุผลผลเสมอไป บางเรื่องเกิดจากหลักความจริงแล้วนำมาประยุกต์ใช้ในในหลักฮวงจุ้ย เช่น ห้ามซื้อบ้านที่อยู่ในทางสามแพร่ง เนื่องจากทางสามแพร่งนั้นอันตรายอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ จากการที่รถชนเข้าตัวบ้าน แสงไฟจากรถส่องเข้าตัวบ้าน ทำให้ผู้อยู่บ้านขาดความเป็นส่วนตัว เป็นต้น ดังนั้นเรามาศึกษาหลักฮวงจุ้ยกันว่าอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภทเราควรคำนึงถึงเรื่องอะไรบ้าง
 
ฮวงจุ้ยคอนโดมิเนียม หลักการเลือกคอนโดมิเนียมโดยส่วนใหญ่จะมีประเด็นหลัก คือ ตำแหน่งของห้อง มีประเด็นดังนี้
1. ห้องไม่ควรอยู่ใกล้กับลิฟท์หรือบันไดมากนัก เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้เงินทองรั่วไหล แต่ถ้าหากมีบันไดหนีไฟและเป็นห้องมุม ก็จะช่วยแก้ในเรื่องของความอับโชคลงไปได้
2. การเลือกชั้นมีผลต่อฮวงจุ้ยด้วยเช่นกัน ต้องเลือกชั้นให้ถูกกับธาตุของตนเองโดยนับจาก น้ำ ไฟ ไม้ ทอง ดิน ตามลำดับ โดยนับชั้นวนไปเรื่อยๆ เช่น ชั้น 1-5, 6-10 , 11-20, …
3. ตำแหน่งแห่งความมั่งคั่งและถือว่าเป็นตำแหน่งที่เหมาะสม ควรจะเลือกห้องที่อยู่บริเวณตรงกลางเป็นหลัก รวมถึงการเลือกตำแหน่งตึกด้วย ควรเลือกอาคารที่อยู่ตรงกลางหากโครงการคอนโดมิเนียมมีหลายอาคาร
4. คอนโดมิเนียมที่เราอาศัยอยู่ ถ้าหากด้านหลังเป็นตึกสูงกว่าจะช่วยเสริมความมั่งคั่งให้เราได้
5. รูปทรงของตึกบ่งบอกถึงความเป็นหยินหยาง รูปทรงที่อยู่แล้วดีควรจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทรง L หรือ H อาจจะมีความเป็นหยินหยางมากเกินไป
 
ฮวงจุ้ยบ้าน หลักการเลือกบ้านจะมีประเด็นหลักๆ ดังนี้
1. ไม่ควรซื้อบ้านที่อยู่ในพื้นที่ต่ำกว่า เนื่องจากบ้านหลังอื่นจะข่มบ้านของเรานั่นเอง
2. บ้านไม่ควรอยู่มุมอับท้ายโครงการ และควรเลือกทำเลที่มีบ้านหลังอื่นๆ โอบล้อมอยู่ด้วยไม่ควรเลือกบ้านที่อยู่หลังเดียวโดดๆ
3. ควรเลือกบ้านที่ด้านหน้าเป็นน้ำและมีภูเขาโอบด้านหลัง ให้ความหมายในแง่ที่ว่า น้ำ หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ภูเขา หมายถึงความแข็งแรงมั่นคง นั่นก็คือ ใครที่อยู่อาศัยในบ้านหลังนี้จะมีทั้งความอุดมสมบูรณ์ ชีวิตจะมั่นคงยิ่งขึ้น แต่ถ้าบ้านที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ด้านหลังมีน้ำถือว่าไม่ดี เพราะหมายถึงผู้ที่อยู่อาศัยเงินทองจะรั่วไหล
4. ถ้าหากเป็นคนอยู่ในเมืองคงนึกว่าออกมาว่าจะหาภูเขาจากไหนให้มีได้ลักษณะถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย ทางแก้คือ ด้านหลังบ้านของเราอาจจะเป็นตึกที่สูงกว่าบ้านของเราประมาณหนึ่งแต่ไม่มากเกินไปก็จะทำให้บ้านหลังนั้นมีหลักฮวงจุ้ยที่ดี
5. ไม่ควรเลือกบ้านบริเวณหัวมุมหรือทางสามแพร่งเพราะบริเวณอาจจะถูกรบกวนจากรถที่ผ่านไปมาขาดความเป็นส่วนตัวรวมถึงแสงไฟจากรถอาจจะส่องเข้าตัวบ้านได้ ยิ่งไปกว่านั้นทางสามแพร่งอาจจะทำให้ได้อิทธิพลจากลมและน้ำซึ่งไม่เป็นมงคลกับตัวเจ้าของบ้าน
 
ฮวงจุ้ยทาวน์เฮ้าส์ หลักการเลือกทาวน์เฮ้าส์จะมีประเด็นหลักๆ ดังนี้
1. ทาวน์เฮ้าส์ไม่ควรอยู่ติดถนนใหญ่ ควรอยู่ในซอยเพราะจะได้เรื่องความเป็นส่วนตัว ไม่มีเสียงดังรบกวน
2. ทาวน์เฮ้าส์หลังหัวมุมทางด้านขวาซึ่งติดกับถนนไม่ดี ส่วนทาวน์เฮ้าส์ที่ด้านซ้ายเป็นถนนและไม่ใช่ถนนใหญ่ถือว่าดี
3. ประตูบ้านทาวน์เฮ้าส์ของบ้านฝั่งตรงข้ามไม่ควรตรงกับบ้านของเรา เพราะจะถือว่าอุปมงคล4. อาคารฝั่งตรงข้าม ถ้าหากเป็นอาคารสูงกว่าบ้านของเราถือว่าไม่ดีเพราะเป็นการข่มบ้านของเรา
 
ฮวงจุ้ยที่ดิน หลักการเลือกที่ดินมีประเด็นหลักๆ ดังนี้
1. ที่ดินรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและสี่เหลี่ยมจัตุรัสถือว่าดีที่สุดตามหลักฮวงจุ้ยและดีในแง่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย
2. ที่ดินที่มีรูปทรงด้านหลังแคบ ไม่ดี เพราะจำทำให้เราเก็บเงินไม่อยู่ ที่ดินรูปชายธงไม่ดี วิธีการแก้อาจจะนำพื้นที่บางส่วนมาปลูกต้นไม้เพื่อลดความอัปมงคลลงไป
3. ที่ดินที่มีรูปทรงแหว่งหรือคดไปคดมากเกินไปถือว่าไม่ดี หรือเป็นรูปตัว L ก็ยังไม่ดีเพราะอาจจะต้องเจออุปสรรคเวลาทำงาน และจะนำเอาที่ดินมาพัฒนาก็อาจจะลำบาก
4. ไม่ควรซื้อที่ดินที่อยู่ในระดับต่ำ เพราะเชื่อกันว่าเจ้าของที่จะตกต่ำ แต่ที่ดินที่มีลักษณะด้านหน้าต่ำด้านหลังยกสูงจะดี
5. ที่ดินไม่ควรแคบและยาวเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว
6. ทีดินไม่ควรอยู่บริเวณสุสาน
 
Credit: Terra BKK

8/18/2016 11:26:48 AM